นัวร์คริน® มุ่งมั่นที่จะได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องในฐานะมาตรฐานความเป็นเลิศ โดยไม่เพียงแต่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค แต่นัวร์คริน® ยังได้รับการยอมรับจากนักวิทยาศาสตร์ แพทย์ผิวหนัง และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพทั่วโลกอีกด้วย
นัวร์คริน® ได้รับการพัฒนาขึ้นจากผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และเอกสารทางคลินิกมากกว่า 100 ฉบับ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ
นัวร์คริน® เป็นพันธมิตรกับหน่วยงานชั้นนำของโลกในเรื่องผมร่วงและผมบาง เนื่องจากได้การรับรองทางคลินิกแล้วว่ามีมาตรฐานด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย
นัวร์คริน® มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ได้รับการรับรองทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ*
นัวร์คริน® มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงผลการรักษาให้กับผู้ป่วยทุกรายที่มีปัญหาการงอกของเส้นผมหรือผมร่วง ดังนั้น หลังจากการพัฒนาการรักษาด้วยการทดแทนโปรตีโอไกลแคน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลในทางลบต่อการงอกของเส้นผม เราจึงให้ความสำคัญกับการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการสูญเสียโปรตีโอไกลแคนในเดอร์มัลปาปิลลา ระดับโปรตีโอไกลแคนในเซลล์รากผมไม่เพียงพอ และการรักษาด้วยการทดแทนโปรตีโอไกลแคนที่ได้รับการตรวจสอบและพิสูจน์ทางคลินิกแล้ว
นัวร์คริน® ได้รับการทดสอบในการศึกษาแบบอำพรางสองทางที่มีการใช้ยาหลอก และพบว่าไม่มีผลข้างเคียง* ตรงกันข้ามกับยาอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคันที่หนังศีรษะ แห้ง รังแค ลอกเป็นขุย ระคายเคือง แสบร้อน และในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้น้ำหนักขึ้น เกิดอาการบวมที่ใบหน้า ข้อเท้า มือหรือท้อ หายใจลำบาก (โดยเฉพาะขณะนอนราบ) หัวใจเต้นเร็ว เจ็บหน้าอก และเวียนศีรษะ**
สรุปผล: จากการประเมินการรักษาเดี่ยวโดยใช้นัวร์คริน® ที่มีส่วนผสมของมาริเล็กซ์®และมีกลุ่มควบคุม พบว่า ความหนาแน่นของเส้นผมและความพึงพอใจในการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเริ่มต้นและกลุ่มที่ได้รับยาหลอก อย่างไรก็ตาม ต้องระลึกไว้ว่า จำนวนผมบนหนังศีรษะที่เพิ่มขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับเวลาและมีนัยสำคัญทางสถิติหลังจากการรักษา 6 เดือน และยังพบว่าการรักษาให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาติดตามผล 12 เดือน ในการทดลองนี้
ผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่าการรักษาระยะยาว (6 เดือนขึ้นไป) ด้วยนัวร์คริน® ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมากกว่า เนื่องจากไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง และไม่มีผู้เข้าร่วมการศึกษารายใดถอนตัวออกจากการศึกษาอันเนื่องจากผลข้างเคียง
สรุปผล: ผมร่วงจากพันธุกรรมในเพศผู้หญิง (FPHL) และผมร่วงทั่วศีรษะ (TE) เป็นอาการผมร่วงที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิง แต่ในปัจจุบันเรายังไม่สามารถอธิบายถึงสาเหตุที่แท้จริงของอาการเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน บทความนี้ได้อธิบายพยาธิวิทยาพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลังลักษณะทางคลินิกที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของการงอกของเส้นผมในผู้หญิง ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าเซลล์รากผมที่ได้รับผลกระทบมีความสามารถในการสังเคราะห์โปรตีโอไกลแคนลดลงอย่างมาก ซึ่งนำไปสู่ภาวะขาดโปรตีโอไกลแคนที่เรียกว่าระดับโปรตีโอไกลแคนในเซลล์รากผมไม่เพียงพอ (FHG) สภาวะทางพยาธิวิทยานี้ส่งผลเสียต่อวิถีการเผาผลาญที่สำคัญหลายวิถี เช่น การกระตุ้นอย่างรุนแรงของตัวกระตุ้นระยะเจริญของเส้นผม/เบต้า-คาเทนิน (Wnt/β-catenin) ซึ่งจะทำให้ระยะเจริญของเส้นผม (Anagen) สั้นลงและกระตุ้นให้เซลล์รากผมเข้าสู่ระยะผลัดเส้นผม (Telogen) หากภาวะระดับโปรตีโอไกลแคนในเซลล์รากผมไม่เพียงพอเกิดขึ้นเป็นเวลานานและไม่ได้รับการรักษาจะทำให้ขนาดของเซลล์์รากผมและเส้นผมลดลงและฝ่อ ซึ่งเรียกว่าภาวะสูญเสียโปรตีโอไกลแคนในเดอร์มัล ปาปิลลา (PFA) และเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการพิสูจน์แล้วว่าภาวะนี้มีการตอบสนองต่อการรักษาด้วยนัวร์คริน® ที่มีส่วนผสมของมาริเล็กซ์® ซึ่งผู้เขียนกล่าวว่าการรักษาด้วยนัวร์คริน® จะช่วยเพิ่มโปรตีโอไกลแคนที่มีการออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ซึ่งสามารถบังคับให้เซลล์รากผมกลับเข้าสู่ระยะเจริญของเส้นผม และยืดระยะเวลาการงอกของเส้นผม โดยส่งเสริมการเพิ่มจำนวนเซลล์ ประสิทธิภาพทางคลินิกของการรัักษาด้วยการทดแทนโปรตีโอไกลแคน (PRT) ได้รับการพิสูจน์จากการทดลองในมนุษย์หลายครั้ง ซึ่งพบว่านัวร์คริน® ไม่เพียงแต่เพิ่มความหนาแน่นของเส้นผมในผู้หญิงที่มีปัญหาผมร่วงจากพันธุกรรม แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเอง สุขภาวะทางจิต และคุณภาพชีวิตโดยรวมอีกด้วย
สรุปผล: การทดลองนี้มุ่งเน้นศึกษาผลกระทบของผมร่วงที่มีต่อสุขภาวะทางจิตและคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งแต่มักถูกละเลย จากการทดสอบพบว่า ในผู้หญิงที่มีอาการผมร่วงแบบระดับ 1 (Ludwig type-I) ถึงระดับ 2 (Ludwig type-III) การรักษาด้วยนัวร์คริน® เป็นเวลา 6 เดือนช่วยปรับปรุงดัชนีคุณภาพชีวิตทั้งหมดของผู้เข้าร่วมการวิจัย ทั้งสุขภาวะทางจิตและความงามของผู้เข้าร่วม ดังนั้นในการประเมินวิคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์ของการรักษา แพทย์จึงควรคำนึงถึงผลลัพธ์ของนัวร์คริน® ด้วย
สรุปผล: การทบทวนวรรณกรรมครั้งนี้ได้ให้ภาพรวมเกี่ยวกับการทำงานของโปรตีโอไกลแคนในเซลล์รากผมและความเกี่ยวข้องในพยาธิสรีรวิทยาของความผิดปกติของงอกของเส้นผมทั่วไป เนื่องจากโปรตีโอไกลแคนมีส่วนสำคัญในกระบวนการทางชีววิทยาของเซลล์รากผม และเมื่อพิจารณาถึงความสามารถในการปรับปรุงพยาธิสภาพของเส้นผม ผู้เขียนจึงเสนอให้ใช้สารผสมของโปรตีโอไกลแคนที่มีการออกฤทธิ์ทางชีวภาพ (มาริเล็กซ์® ในนัวร์คริน®) เพื่อป้องกันและรักษาปัญหาผมร่วงโดยทั่วไป
สรุปผล: การทบทวนวรรณกรรมครั้งนี้ได้อธิบายกลไกพื้นฐานของภาวะผมร่วงทั่วศีรษะหลังคลอด และอธิบายว่าเพราะเหตุใดการสูญเสียโปรตีโอไกลแคนในเซลล์รากผมจึงอาจเป็นสาเหตุของภาวะนี้ โดยจากหลักฐานที่มีอยู่ ผู้เขียนให้เหตุผลว่าความผันผวนอย่างมากในระดับของฮอร์โมนเพศและคอร์ติซอลในระหว่างและหลังการตั้งครรภ์ อาจส่งผลต่อภาวะสมดุลของโปรตีโอไกลแคนในเซลล์รากผม ซึ่งจะทำให้ระยะเจริญ (Anagen) ของเส้นผมสั้นลงอย่างมีนัยสำคัญ และวงจรการงอกของเส้นผมหยุดชะงัก ดังนั้นจึงเสนอให้รักษาผมร่วงทั่วศีรษะหลังคลอดด้วยการทดแทนโปรตีโอไกลแคนโดยใช้นัวร์คริน®
สรุปผล: การทบทวนวรรณกรรมนี้ได้ศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหยุดชะงักของวงจรการงอกของเส้นผมหลังจากเกิดความเครียดเฉียบพลันหรือเรื้อรัง เช่น ในภาวะผมร่วงทั่วศีรษะ โดยมุ่งเน้นศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียด และโปรตีโอไกลแคนในเซลล์รากผม จากการศึกษาพบว่ามีหลักฐานที่แสดงว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราการการสูญเสียโปรตีโอไกลแคนในเดอร์มัลปาปิลลา (Proteoglycan Follicular Atrophy) และการมีคอร์ติซอลความเข้มข้นสูงในระบบหมุนเวียน สามารถอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและผมร่วงทั่วศีรษะแบบเฉียบพลันและเรื้อรังได้ และการรักษาด้วยการทดแทนโปรตีโอไกลแคน (นัวร์คริน® ที่มีส่วนผสมของมาริเล็กซ์® จากบริษัทฟาร์มา เมดิโก้) ร่วมกับสารเวอร์ซิแคนและดีโคริน มีบทบาทสำคัญในการชักนำและยืดระยะเจริญของเส้นผม (Anagen) ในวงจรการงอกของเส้นผมในผู้ที่ประสบกับปัญหาผมร่วงทั่วศีรษะแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรังที่มีสาเหตุมาจากความเครียด
สรุปผล: บทความนี้ได้อธิบายลักษณะทั่วไปของสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงร่วมกันของผมร่วงและโรคเรื้อรังที่เกิดจากวิถีชีวิต เช่น กลุ่มอาการดื้อต่ออินซูลิน จากการศึกษาพบว่า ผมร่วงจากพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia) เป็นปัจจัยเสี่ยงของภาวะเมแทบอลิกซินโดรม (metabolic syndrome) และโรคหลอดเลือดหัวใจ เนื่องจากภาวะดื้อต่ออินซูลินและการอักเสบอาจส่งผลเสียต่อสภาวะสมดุลตามปกติของเซลล์รากผม ความสัมพันธ์นี้แสดงให้เห็นว่าเราควรใช้แนวทางสหวิทยาการในการวินิจฉัยและการรักษาผมร่วง และด้วยคุณสมบัติพิเศษในการต้านการอักเสบและการส่งเสริมการงอกใหม่ของเส้นผม การรักษาด้วยการทดแทนโปรตีโอไกลแคน (PRT) โดยใช้นัวร์คริน® จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการผมร่วงที่มีภาวะดื้อต่ออินซูลินร่วมด้วย นอกจากนี้ การรักษาผมร่วงด้วยวิธี PRT ยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการช่วยบรรเทาความเครียดทางจิตใจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจทำให้อาการทั้งสองนี้แย่ลงได้
สรุปผล: การรักษาผมบางทั่วศีรษะในเพศหญิงโดยใช้นัวร์คริน®วูแมน (ที่มีส่วนผสมของมาริเล็กซ์®) – การศึกษาเชิงอัตวิสัยแบบเปิดเกี่ยวกับการงอกและลักษณะของเส้นผม ความมั่นใจในตนเอง และความพึงพอใจในการรักษา
สรุปผล: ผู้เข้าร่วมการวิจัยโดยส่วนใหญ่ในการศึกษาเชิงคุณภาพที่ตีพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้พึงพอใจในผลลัพธ์ของการรักษาด้วยนัวร์คริน โดยผู้ที่ได้รับการรักษาพบว่า คุณภาพและลักษณะของผมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีภายใน 3 เดือน และผู้ป่วยมีความพึงพอใจทั้งในด้านความงามและด้านจิตใจเพิ่มขึ้นได้รับการรักษาเป็นเวลาที่ยาวนานขึ้น จากผลการศึกษาสามารถสรุปได้ว่า ผู้หญิงที่มีปัญหาผมบางทั่วศีรษะและผมร่วงทั่วศีรษะมีอัตราความพึงพอใจในระดับที่สูงหลังจากได้รับการรักษาด้วย นัวร์คริน® วูแมน เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
สรุปผล: การศึกษาทางคลินิกเชิงอัตวิสัยระยะยาวนี้ได้ทำการประเมินประสิทธิภาพการรักษาด้วยวิธี PRT โดยใช้นัวร์คริน® จากมุมมองของผู้ป่วยชาวบราซิล โดยจุดแข็งที่สำคัญของการศึกษานี้คือ นักวิจัยได้ประเมินผลลัพธ์ทางจิตวิทยา เช่น ความมั่นใจของผู้ป่วยและความพึงพอใจในการรักษาควบคู่ไปกับการงอกของเส้นผม ผลการวิจัยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ผู้เข้าร่วมการวิจัยโดยส่วนใหญ่มีสภาพเส้นผมที่ดีขึ้นหลังจากได้รับการรักษาโดยใช้นัวร์คริน® เป็นวิธีการรักษาเดี่ยวทางเลือกแรก และจากการสังเกตพบว่า PRT ให้ผลลัพธ์ในเชิงบวกภายใน 3 เดือน ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาผมร่วงแบบทั่วไป การที่การรักษาด้วยนัวร์คริน® มีประสิทธิภาพสูงและให้ผลลัพธ์ได้เร็วขึ้นจึงน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราความพึงพอใจในการรักษาสูงถึง 97% นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังมีความมั่นใจในเส้นผมของตนเองมากขึ้นหลังจากใช้นัวร์คริน ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงภาพลักษณ์ของผู้ป่วยและป้องกันผลกระทบทางจิตสังคมที่เป็นผลมาจากการผมร่วง ดังนั้นผลของการศึกษาทางคลินิกนี้จึงยืนยันว่าการรักษาด้วยนัวร์คริน® เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการรักษาผมร่วงในเพศหญิง